ใครที่กำลังสนใจ อยากดริปวิตามินเพื่อให้ผิวกลับมาสวยสุขภ …
นอกจากการทาครีมกู้คล้ำเสียแล้ว อีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยจบปัญหาผิวหมองคล้ำอย่างได้ผล คือ การดริปวิตามิน เพื่อให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างรวดเร็วผ่านการฉีดโดยตรง นำไปสู่การฟื้นฟู และซ่อมแซมผิวให้กลับมากระจ่างใสและสุขภาพดีได้อีกครั้ง
หัตถการความงามที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งอย่างในยุคนี้ คือ การดริปวิตามิน หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ IV Drip (Vitamin Drip) เพราะนอกจากจะช่วยให้ผิวของเราดูกระจ่างใส ชุ่มชื้น และแข็งแรงมากขึ้นแล้ว ยังช่วยคลายความเหนื่อยล้าได้อีกด้วย สำหรับใครที่กำลังสนใจการ IV Drip อยู่ Mali Clinic อยากชวนมาทำความเข้าใจกันว่าหัตถการนี้คืออะไร แตกต่างจากการกินวิตามินไหม และจะคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายหรือเปล่า
การดริปวิตามิน (Intravenous Therapy หรือ IV Therapy หรือ IV Drip) เป็นหัตถการช่วยฟื้นฟู และกอบกู้ผิวหมองคล้ำให้กลับมาดูกระจ่างใส และสดชื่นขึ้นอีกครั้งในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทั้งยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ให้ผิวดูอ่อนเยาว์ มีความยืดหยุ่น และเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น โดยเปลี่ยนจากการกินอาหารเสริม หรือผักผลไม้ มาเป็นการนำวิตามินและสารน้ำเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดดำโดยตรงแทน เพื่อให้ร่างกายดูดซึมวิตามินได้ดีขึ้น ไม่ทิ้งสารตกค้าง และไม่เกิดผลข้างเคียงต่อระบบร่างกาย
วิตามินแบบฉีด เป็นการนำวิตามิน เกลือแร่ และสารอาหารเข้าสู่เส้นเลือดดำโดยตรง ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ไวกว่าการรับประทาน ผลไม้ หรือ อาหารเสริม จึงช่วยให้สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของผิวได้รวดเร็วกว่าไม่มีสารตกค้างและไม่มีผลข้างเคียง เพื่อเพิ่มปริมาณสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยบำรุงและเสริมความแข็งแรงให้ร่างกาย รวมถึงช่วยในเรื่องการบำรุงผิวพรรณจากภายใน
ส่วน วิตามินแบบกิน ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะดึงวิตามินไปฟื้นฟูส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ เพราะต้องผ่านการทำงานของตับ และลำไส้ก่อน โดยร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ประมาณ 50% ของวิตามินที่กินเข้าไป (ขึ้นอยู่กับความสามารถในการดูดซึมของลำไส้ด้วย)
ทั้งนี้ วิตามินบางตัวมีความเหมาะสมกับการให้ร่างกายดูดซึมไปใช้แตกต่างกัน วิตามินบางตัวเหมาะกับการกินมากกว่าการฉีด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง ก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย
เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าการ IV Drip เป็นการนำสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว ได้แก่ วิตามิน C, E, A เกลือแร่ และสารอาหารอื่น ๆ มาละลายกับน้ำเพื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายผ่านหลอดเลือดดำ ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที แต่กว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงต้องรอให้ร่างกายนำวิตามินเหล่านั้นไปซ่อมแซม และฟื้นฟูเซลล์ผิวส่วนต่าง ๆ ก่อน ดังนั้น ระยะเวลาที่จะเห็นผลอย่างชัดเจนจึงอยู่ที่ประมาณ 3-4 สัปดาห์หลังฉีด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง และสุขภาพของแต่ละบุคคล
โดยปกติหลังจากที่ฉีดวิตามินเข้าสู่ผิวแล้ว ความขาวกระจ่างใสจะคงอยู่ประมาณ 1-2 เดือนหลังฉีด แต่ระยะเวลาที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปตามพฤติกรรม และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล ถ้าเราอยากมีผิวสุขภาพดี ผิวดูกระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอ จำเป็นต้องมีการดูแลร่างกายที่ดี กินอาหารที่มีประโยชน์ ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอร่วมด้วย
ที่มาลิคลินิก จะมีการประเมินและปรึกษาแพทย์ก่อนทำการดริปวิตามินทุกครั้ง เพราะวิตามินแต่ละสูตรให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป
มีวิตามินซี และบีรวม พร้อมสารตั้งต้นที่ช่วยดีท๊อกซ์สารพิษในร่างกาย มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้งกัน ช่วยให้ผิวกระจ่างและดูสุขภาพดีมากขึ้น
มีวิตามินช่วยบำรุงสมองและร่างกาย ทั้งยังช่วยในเรื่องภูมิคุ้มกันเหมาะสำหรับคนที่ทำงานหนัก โดยสูตรนี้ สามารถเข้ามาดริปได้ต่อเนื่องทุกสัปดาห์
มีสารวิตามินที่จำเป็นต่อผิวมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่อยากกู้ผิวอย่างเร่งด่วน เพิ่มความกระจ่างใส และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยปรับโทนผิวให้สม่ำเสมอ โดยสามารถได้เดือนละ 1 ครั้ง
ขึ้นอยู่กับสูตรวิตามินที่เลือกใช้ บางสูตรดริป 1 ครั้งต่อเดือนก็ช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้ บางสูตรต้องดริปต่อเนื่องจึงจะเห็นผล สำหรับท่านใดที่สนใจอยากรู้ว่าดริปวิตามินที่ไหนดีเพื่อให้ผิวดูขาวกระจ่างใส ที่ Mali Clinic เรามีโปรแกรมดริปวิตามินมากมาย ตอบโจทย์ปัญหาผิวหลากหลายรูปแบบ อยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง และเครื่องมือที่ทันสมัยได้มาตรฐานในระดับสากล หากมีข้อสงสัยอยากสอบถามโปรแกรม และโปรโมชั่นเพิ่มเติม สามารถติดต่อมาได้ที่ Line Official >> Click << เราพร้อมให้คำปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
ไม่ ถ้าวิตามินที่ฉีดได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ประเทศไทย และฉีดในคลินิก หรือสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้การฉีดวิตามินทุกครั้งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อควบคุมปริมาณของวิตามินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน