ถึงแม้ภูมิแพ้อาหารแอบแฝงจะไม่รุนแรงเท่าภูมิแพ้อาหารเฉีย …

บางคนกินนม กินไข่ หรือกินผัก แล้วมีอาการปวดหัว ปวดท้อง ลมตีเหมือนอาหารไม่ย่อยอยู่บ่อยครั้ง แถมบางรายยังมีสิวขึ้นไม่หยุดหย่อน รู้ไหมว่านี่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าว่าเรากำลังเป็นโรคภูมิแพ้อาหารแอบแฝงอยู่ก็เป็นได้

โดยส่วนมากเราจะคุ้นเคยกับโรคแพ้อาหารที่จะแสดงอาการทันทีหลังจากรับประทานอาหาร 2-4 ชั่วโมง กันอยู่แล้ว เพราะเราจะเกิดภูมิแพ้ต่าง ๆ ที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน เช่น มีผื่นแดง คัน ตัวบวม และหายใจไม่สะดวก ในบางรายที่แพ้มาก ๆ อาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ซึ่งจะแตกต่างกับโรคภูมิแพ้อาหารแอบแฝงโดยสิ้นเชิง ในวันนี้เราจึงอยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจโรคนี้กันว่าต่างจากการแพ้อาหารปกติอย่างไร แล้วถ้าเราอยากรู้ว่าตัวเองแพ้อาหารชนิดไหนต้องทำอย่างไรบ้าง

ภูมิแพ้อาหารแอบแฝง คืออะไร

ภูมิแพ้อาหารแอบแฝง (Food Intolerance) เป็นอาการแพ้อาหารเรื้อรัง โดยร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกัน (Antibody) ชนิด IgG (Immunoglobulin G) เพื่อต่อต้านอาหารที่กินเข้าไป ซึ่งเป็นคนละชนิดกับการแพ้อาหารแบบเฉียบพลัน ส่วนมากจะมีอาการมวนท้อง ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ปวดไมเกรน มีสิวเรื้อรัง บวมน้ำ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าเป็นอาการไม่รุนแรง และจะไม่แสดงอาการออกมาทันที มักมีอาการหลังจากทานอาหารไปแล้ว 48 ชั่วโมง ทำให้คนส่วนมากมองข้ามอาการเหล่านี้ได้ง่าย ๆ

ภูมิแพ้อาหารแอบแฝงตรวจได้อย่างไร

แม้ว่าโรคภูมิแพ้อาหารแอบแฝงจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่หากปล่อยไว้นาน ๆ ก็จะทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ โดยไม่รู้ตัวได้เช่นกัน หากคุณสงสัยว่ากำลังแพ้อาหารบางชนิด แนะนำว่าให้มาปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ประเมิน และเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อส่งไปตรวจว่าแพ้อาหารชนิดไหนบ้างจะดีกว่า เพราะอาหารที่ส่งผลต่อภาวะแพ้อาหารนั้นมีมากกว่า 200 ชนิดเลยทีเดียว เมื่อแพทย์ได้ผลตรวจมาแล้ว ก็จะมาวิเคราะห์ต่อว่าคุณแพ้อาหารอะไร มีระดับการแพ้มากน้อยแค่ไหน

อยากตรวจ อยากขอคำปรึกษา อย่าลืมนึกถึงเรา

Mali Clinic นอกจากเราจะให้บริการด้านการปรับรูปร่าง ผิวหนัง และความงามแล้ว เรายังมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาคอยให้คำปรึกษา และดูแลทุกเคสด้วยความใส่ใจอีกด้วย

วิธีการดูแลตัวเอง

เมื่อทราบผลว่าร่างกายแพ้อาหารอะไรแล้ว วิธีการดูแลตัวเองก็ไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องทานยา เพียงแค่คุณหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แพ้ประมาณ 3-6 เดือน เท่านี้ก็ช่วยลดอาการที่เป็นอยู่ลงได้ และสามารถกลับไปรับประทานอาหารเหล่านั้นได้อีกครั้งเมื่ออาการดีขึ้น แต่ก็ควบควมคุมให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมด้วย ซึ่งจะแตกต่างจากอาการแพ้อาหารแบบทั่วไป หรือแบบเฉียบพลัน ที่ไม่สามารถกลับไปกินอาหารที่แพ้ได้อีก ดังนั้น คุณควรกินอาหารให้หลากหลายขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงต่ออาการแพ้แอบแฝง และเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน

แม้ว่าอาการแพ้อาหารแฝงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่อาการน่ารำคาญที่เกิดขึ้นกับร่างกายอาจส่งผลกระทบได้ในระยะยาว หากคุณสงสัยว่าตัวเองมีภาวะแพ้อาหารแอบแฝงอยู่ แนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อได้รับการตรวจ และวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เป็นการดูแลสุขภาพของคุณให้แข็งแรง จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข